Select Your Favourite
Category And Start Learning.

กว่าจะเป็นข้าราชการครู1

กว่าจะเป็นข้าราชการครู

กว่าจะเป็นข้าราชการครูในกรุงเทพ สำหรับชีวิตต้นทุน 0 บาท 

      กว่าจะมาเป็นข้าราชการครูเราเป็นคนหาเงินเรียนเองตั้งแต่เด็กๆ จนจบ ป.ตรีแม่และครอบครัวไม่เคยลำบากกับเราเลยใครจ้างให้ช่วยอะไร ทำอะไรทำหมด ใช้หลักวิธีคิด วิธีเดียวคือเค้าจ้างเรา เราได้เงิน เขาได้งาน เราได้เรียนรู้งาน (คิดง่ายๆ เค้าจ้างเราเรียน)
                      … ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว…
        เราขึ้นมาทำงานที่กรุงเทพด้วยเงินยืม 1,500 บาท จากการยืมเงินเพื่อน 3 คน คนละ 5 ร้อย (ต้องขอบคุณเพื่อนจริงๆ) หอบใบปริญญาตรี 1 ใบ แบกหน้าเข้ามาเมืองหลวงโดยที่ไม่มีญาติที่นี่เลย เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากสอบบรรจุครั้งที่ 1 ไม่ผ่าน ตอนนั้นสงสารแม่มาก คนที่หน้าเศร้าที่สุดก็คือแม่  แต่จริงๆ ก็บอกแม่ไปแหละว่าแม่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวค่อยสอบอีกก็ได้
        ด้วยความที่มีพี่ดีๆ หลายคนแนะนำช่องทางให้จึงตั้งใจสมัครงานออนไลน์เป็นครูเอกชน (กรุงเทพฯ) ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งที่เราไม่เคยคิดจะมาอยู่เลยคำถามที่ถามตัวเองคือ จะอยู่ได้ไหม ?
  • ไม่ใช่คนกรุงเทพ
  • ไม่เคยมาอาศัยในกรุงเทพ
  • ไม่มีญาติในกรุงเทพเลย
            “คำตอบที่ตอบตัวเองคือ เอาว่ะ ลุยกันสักตั้ง”
        ด้วยความที่เป็นคนชอบวางแผนอยู่แล้วก็ใช้ความรู้ด้าน IT ที่ตัวเองร่ำเรียนมาศึกษาเรื่องราว วางแผนก่อนมาใช้ชีวิตที่นี่
  •  การนั่งแท็กซี่เอย
  •  การใช้ชีวิตของคนที่นี่เอย
  •  หรือแม้แต่การขึ้นรถเมล์ของคนที่นี่
        (ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราต้องขึ้นทุกวัน ตอนนั้นโชคดีมีแอพลิเคชั่น Bangkok Bus ช่วยชีวิตดีมาก ตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพไม่เคยถามทางใครเลย)
       หลังจากก้าวเข้ามาอยู่กรุงเทพ ทำงานเป็นครูเอกชน เวลาผ่านไป 6 เดือน ก็เปิดสอบบรรจุครูผู้ช่วยอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ที่เรียนจบใหม่ๆ ยอมรับอ่านหนังสือหนักมาก พอมาทำงานแล้ว ก็ไม่อยากอ่าน ทำงานมาเหนื่อย เหนื่อยก็นอน
      วันประกาศสมัครสอบก็มาถึง เราเลือกไว้หลายที่เลยยกเว้น สพม.2 กรุงเทพ โดนกากบาททิ้งไม่ได้อยู่ในลิส ซึ่งเป็นสังกัดเรานี่เองอยู่มาวันหนึ่งสิ่งที่คิดขึ้นมาคือ คนไม่พร้อมไปสอบที่ไหนก็ไม่ติดเอาว่ะ สอบที่นี่แหละ ใกล้ๆ ค่ารถเมล์ 6.50 บาท ค่าโรงแรมก็ไม่ต้องไปเช่านอนตอนสอบ สบายๆ ไม่เปลืองตังค์ สุดท้าย ก็เลือกสมัครสอบที่นี่
 
      ถึงวันประกาศผลสอบ ถามว่าคาดหวังไหมคือคาดหวังอยู่นะเพราะก็รู้สึกว่าตัวเองพอทำได้ไม่กล้าดูผลเลย กลัว บวกตื่นเต้นบอกให้คนในครอบครัวดูผลให้หมดยกเว้นตัวเอง สุดท้ายก็ตัวเองนีแหละเป็นคนที่เห็นผลก่อนเพราะไปเลื่อนเจอเพื่อนโพสต์ละเห็นชื่อตัวเองด้วยกรี๊ดลั่นเลย สอบได้ที่ 14 จากทั้งหมด 272 คนชีวิตไม่เคยรู้สึกดีใจอะไรขนาดนี้ มันสุดจริง 
       ผ่านไป 4 เดือนก็เรียกบรรจุพอเรามาเป็นครูก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและพยายามพัฒนาตัวเอง ตลอดเวลา มีอะไรใหม่ๆก็พยายามเรียนรู้ เพราะเรื่อง IT มันพัฒนาไปตลอด
   เส้นทางชีวิตมันไม่ได้สวยงามเลย ณ วันนี้มีความสุขในชีวิตกับเป้าหมายตัวเองลุยเพื่อคนในครอบครัว และทำเพื่อส่วนรวมแค่นั้นพอ คติสอนใจที่เตือนตัวเองเสมอคือ คนอื่นทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้
 
 
         ขอบคุณความลำบากที่ทำให้เราเข้มแข็ง
         ขอบคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านที่คอยช่วยเหลือเสมอ
         ขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนอยู่ข้างหลัง
         ขอบคุณเพื่อนทุกคนที่คอยช่วยเหลือ
         ขอบคุณตัวเองที่ไม่ท้อ ที่ต่อสู้มาจนถึงทุกวันนี้
 
          ไม่เคยลืมพื้นดินที่เหยียบย่ำ ไม่เคยลืมคนที่คอยช่วยเหลือทุกคน เราเกิดมาเป็นนักรบเพื่อต่อสู้ ที่ไม่เคยท้อต่ออุปสรรคทั้งปวง
           อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา

Share this post

Share on facebook
Share on twitter
Share on pinterest
Share on print
Share on email